เมื่ออาเซี่ยนจำต้องเลือกข้างระหว่างสองอภิมหาอำนาจ

สถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา (Institute of Southeast Asian Studies (ISEAS)) หรือสถาบัน Yusof Ishak Institute ซึ่งเป็นสถานบันวิจัยในประเทศสิงคโปร์ที่ก่อตั้งเมื่อปี 1968 ตามชื่อประธานาธิบดีคนแรกของสิงคโปร์ก่อนที่จะเปลี่ยนชื่อเป็น ISEAS เมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2015 และเป็นสถาบันที่ผู้นำหลายประเทศได้เคยมาปราศัยแสดงวิสัยทัศน์ ณ สถานที่แห่งนี้มาแล้ว

เมื่อวันที่ 16 มกราคมนี้ ทางสถาบันได้แถลงผลการวิจัยสถานการณ์ของประเทศอาเซียนชิ้นหนึ่งอันเป็นรายงานการสำรวจประจำปีที่จัดทำและเผยแพร่โดยศูนย์วิจัยอาเซียนของสถาบันและจัดทำเป็นปีที่สองติดต่อกัน เป็นการสำรวจทางวิชาการเกี่ยวกับการรับรู้ของประเทศในกลุ่มอาเซียนที่มีต่อการรับรู้อิทธิพลของจีนและสหรัฐอเมริกา

กลุ่มประเทศอาเซียน

การสำรวจได้ดำเนินการเมื่อปลายปี 2019 โดยมีผู้เข้าร่วมการสำรวจกว่า 1308 องค์กรใน 10 ประเทศในอาเซียนทั้งจากหน่วยงานภาครัฐ ภาควิชาการ ภาคธุรกิจและสื่อมวล และเมื่อแยกตามประเทศของผู้ตอบแบบสอบถามแล้ว ส่วนใหญ่จะมาจากประเทศพม่า สิงคโปร์และมาเลเซีย ขณะที่ผู้ตอบแบบสอบถามที่มาจากประเทศลาวและกัมพูชามีจำนวนค่อนข้างน้อย ทั้งนี้ผู้จัดการการสำรวจให้เหตุผลว่า ผู้ตอบแบบสอบถามที่ถูกัคัดเลือกนั้นจำเป็นต้องมีความรู้เพียงพอเกี่ยวกับกิจการในภูมิภาค

จากรายงานพบว่า ผู้ตอบแบบสอบถามเห็นว่าปัญหาด้านความมั่นคงคือปัญหาเร่งด่วนที่สุดสามอันดับแรกในภูมิภาค ได้แก่ ความมั่นคงทางการเมืองภายในประเทศ ภาวะเศรษฐกิจที่ตกต่ำและผลกระทบของจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ต่อมาคือความมั่นคงในภูมิภาค (ทะเลจีนใต้ ช่องแคบไต้หวัน และคาบสมุทรเกาหลี) ความตึงเครียดทางทหาร และสุดท้ายคือการก่อการร้าย 73% ของผู้ตอบแบบสอบถามกังวลว่าเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะกลายเป็นเวทีการต่อสู้ของประเทศมหาอำนาจและประเทศตนเองอาจถูกดึงเข้าเป็นตัวแทนในการต่อสู้ ต่อความกังวลข้อนี้มีแนวโน้นที่เพิ่มขึ้นจากปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 62% และเมื่อถามถึงว่าประเทศจะรับมือกับการต่อสู้ของประเทศมหาอำนาจอย่างไรนั้น ผู้ตอบส่วนใหญ่ (48%) เห็นว่าอาเซียนควรเสริมสร้างความแข็งแกร่งและสามัคคีเป็นปึกแผ่นเพื่อทานแรงกดดันจากจีนและสหรัฐอเมริกา 31.3% เลือกที่จะไม่เข้าข้างทั้งจีนและสหรัฐอเมริกา 14.7% ของผู้ตอบแบบสอบถามเลือกที่จะ”แสวงหาบุคคลที่สาม” และมีเพียง 3.1% ของผู้ตอบแบบสอบถามเห็นว่าจะต้องเลือกระหว่างจีนหรือสหรัฐอเมริกา

ผลการสำรวจจาก ISEAS

แต่เมื่อถามว่า หากถูกบังคับต้องเลือกข้างระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกาแล้ว จะเลือกข้างใครนั้น ความเห็นจะแตกต่างกันระหว่างประเทศอย่างเห็นได้ชัด หากดูในภาพรวมแล้ว 53.6% ของผู้ตอบแบบสอบถามเลือกข้างสหรัฐอเมริกาและ 46.4% เลือกข้างจีน แต่เมื่อมองลึกลงไปแต่ละประเทศแล้ว 10 ประเทศอาเซียนมี 7 ประเทศที่เลือกที่จะอยู่ข้างจีนดังนี้ ลาว 73.9% บรูไน 69.1% พม่า 61.5% มาเลเซีย 60.7% กัมพูชา 57.7% ไทย 52.1% และอินโดนีเซีย 52% ส่วนสองประเทศที่ยืนยันจะยืนข้างสหรัฐคือ เวียดนาม 85.5% และฟิลิปินส์ 82.5% ตามด้วยสิงคโปร์ 61.3% ทั้งนี้ การที่เวียดนามกับฟิลิปินส์เลือกที่จะยืนข้างสหรัฐอย่างแข็งขันนั้น สาเหตุส่วนหนี่งมาจากการมีข้อพิพาทกับจีนในทะเลจีนใต้

จากการสำรวจพบว่า 79% ของผู้ตอบแบบสอบถามเห็นว่าจีนเป็นประเทศที่มีอิทธิพลทางเศรษฐกิจมากที่สุดในภูมิภาค อีก 7.9% เห็นว่าเป็นประเทศสหรัฐอเมริกา แม้สหรัฐจะมีอิทธิพลทางการเมืองและทางยุทธศาสตร์เหนือกว่าจีนก็ตาม แต่ผลการสำรวจกลับพบว่า 52% ของผู้ตอบแบบสอบถามเชื่อว่าจีนเป็นประเทศที่มีอิทธิพลมากที่สุดในภูมิภาคนี้ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 45% ในปีที่แล้ว ส่วนคำตอบเลือกสหรัฐฯลดลงจาก 30.5% เป็น 26.7%

ต่ออำนาจทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นของจีนนั้น ใช่ว่าจะเป็นที่ยินดีของประเทศต่าง ๆ เพราะจากผู้ตอบแบบสอบถาม 72% แสดงความกังวล อีก 28% เห็นว่าเป็นเรื่องน่ายินดี ส่วนการเพิ่มอำนาจทางการเมืองและการทหารของจีนนั้น ผู้ตอบแบบสอบถาม 85.4% แสดงความกังวล อีก 14.6% เห็นว่าเป็นเรื่องน่ายินดี