ทุ่นนำทาง GPS ในทะเลจีนใต้ “บอด” สนิท

ปีที่แล้ว ประเทศจีนได้ติดตั้งเครือข่ายดาวเทียมเป๋ยโต่ว (Beidou)เสร็จสิ้นเรียบร้อย หลังจากนั้น สิ่งแรกที่ดำเนินการคือ การเปลี่ยนทุ่นไฟนำทางทั้งหมด 156 ตัวในช่องแคบฉงโจว (琼州) ด้วยระบบนำทางเป๋ยโต่ว แทน ทุ่นไฟในทะเลเป็นสัญญาณนำทางชนิดหนึ่งที่ลอยอยู่ในน้ำซึ่งทอดสมออยู่ที่ตำแหน่งที่กำหนดเหมือนกับไฟถนนสองข้างทางเพื่อบอกช่องทางเดินเรือในทะเลอย่างชัดเจน เนื่องจากภายในทุ่มติดตั้งระบบ GPS ไว้  ทำให้สามารถตรวจสอบสภาพอุทกวิทยาในท้องทะเล ข้อมูลการเดินเรือที่ผ่านมา ตำแหน่งของทุ่นไฟ และการทำงานของอุปกรณ์ได้ทันที

ก่อนที่ระบบนำทางดาวเทียมเป๋ยโต่ว จะเสร็จสมบูรณ์ ทุ่นไฟนำทางในช่องแคบได้ใช้ระบบ GPS นอกจากจะต้องจ่ายเงินจำนวนมากให้กับสหรัฐอเมริกาทุกปีแล้ว ยังเผชิญกับความเสี่ยงที่ข้อมูลอุทกวิทยาและการนำทางในทางทะเลที่มีความอ่อนไหวจะเกิดการรั่วไหล เพราะอเมริกาสามารถเข้าถึงข้อมูลทั้งหมดได้โดยผ่านดาวเทียม เพื่อให้กองทัพเรือสหรัฐฯใช้เป็นข้อมูลระบุตำแหน่งและการนำทางที่แม่นยำ

ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย จีนจึงได้เปลี่ยนทุ่นไฟนำทางในช่องแคบฉงโจวทันทีที่เครือข่ายดาวเทียมเป่ยโต๋วเสร็จสมบูรณ์ และระบบดาวเทียม GPS ของสหรัฐฯ กลายเป็น “บอดสนิท” ในชั่วข้ามคืน

ปัจจุบัน ระบบนำทางผ่านดาวเทียมที่ใช้งานได้ในโลก ได้แก่ GPS ของสหรัฐอเมริกา, GLONASS ของรัสเซีย, กาลิเลโอของยุโรป และเป๋ยโต่วของจีน ส่วนประเทศที่ไม่มีระบบนำทางด้วยดาวเทียมสามารถใช้ GPS ของสหรัฐอเมริกาเท่านั้น GPS เป็นระบบนำทางด้วยดาวเทียมระบบแรกของโลกที่มีการใช้งาน ทำให้สามารถผูกขาดระบบนำทางด้วยดาวเทียมได้ ในกรณีเกิดความขัดแย้งด้านผลประโยชน์ สหรัฐฯก็สามารถตัดสัญญาณ GPS ในพื้นที่ที่กำหนดได้ตามอำเภอใจ ทำให้ประเทศผู้ใช้บริการต้องยอมโดยไม่มีทางเลือก

ในยุคที่ยังไม่มีระบบนำทางเป๋ยโต่ว เรือขนส่งสินค้าของจีนก็เคยถูกสหรัฐฯตัดสัญญาณ GPS ขณะแล่นอยู่ในน่านน้ำสากล เหตุการณ์นี้ทำให้จีนตระหนักว่าจะต้องมีระบบนำทางด้วยดาวเทียมที่เป็นอิสระของตัวเอง จึงเป็นที่กำเนิดของระบบนำทาง Beidou ในปัจจุบัน