ผลจากการทดสอบขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกของจีน ทำให้ NASA ต้องเร่งพัฒนายานอวกาศพลังนิวเคลียร์
เจ้าหน้าที่ขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ หรือ NASA กล่าวว่าสหรัฐฯจำเป็นต้องลงทุนสร้างยานอวกาศที่ใช้พลังงานนิวเคลียร์หากต้องการเอาชนะคู่แข่งสู่ดาวอังคาร พวกเขาเรียกร้องให้ลงทุนทรัพยากรในการวิจัยและพัฒนาจรวดพลังงานนิวเคลียร์ ซึ่งจะทำให้มนุษย์สามารถเดินทางถึงดาวเคราะห์แดงได้ในเวลาเพียงสามถึงสี่เดือน ลดระยะเวลาลงเหลือครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับจรวดขับเคลื่อนด้วยสารเคมีแบบดั้งเดิม
“คู่แข่งเชิงกลยุทธ์ของเรา รวมถึงจีน กำลังทุ่มลงทุนในเทคโนโลยีอวกาศที่หลากหลาย ซึ่งรวมถึงการขับเคลื่อนด้วยพลังงานนิวเคลียร์เพื่อบรรลุฝันของพวกเขาในการสร้างนิคมบนดวงจันทร์ รวมทั้งภารกิจเกี่ยวกับดาวอังคารและวิทยาศาสตร์ห้วงอวกาศ” Bhavya Lal ที่ปรึกษาอาวุโสด้านงบประมาณและการเงินของ NASA กล่าวในที่ประชุมคณะอนุกรรมการ” เขายังกล่าวเสริมว่า “สหรัฐอเมริกาจะต้องลงมือโดยเร็วเพื่อให้สามารถแข่งขันได้และยังคงเป็นผู้นำในด้านอวกาศของโลกต่อไป”
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นหลังจากจีนทำการทดสอบขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่สหรัฐต้องประหลาดใจ แม้ว่าทางปักกิ่งจะออกมาปฏิเสธเรื่องนี้ทันทีก็ตาม แต่บางคนมองว่านี่จะเป็น “Sputnik moment” ก็ได้ เพราะหน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯดูเหมือนจะประเมินความก้าวหน้าของจีนต่ำไป
สภาคองเกรสและ NASA ระบุว่าพวกเขาต้องการส่งมนุษย์ไปดาวอังคารให้ได้ภายในปี 2033 แต่ดร.โรเจอร์ ไมเยอร์ (Dr. Roger Myer) ประธานร่วมของคณะกรรมการเทคโนโลยีการขับเคลื่อนนิวเคลียร์ในอวกาศที่ สถาบันวิทยาศาสตร์กลับมีความเห็นที่ตรงข้าม โดยเขากล่าวว่าการเดินทางไปดาวอังคารของมนุษย์นั้น “ภายในปี 2033 ไม่น่าจะเป็นไปได้”
ในขณะที่ทางการจีนได้กำหนดให้ปี 2033 เป็นปีแห่งหมุดหมายที่จะส่งมนุษย์อวกาศไปดาวอังคาร หากเชื่อตามคำพูดของ Bhavya Lal ประเทศจีนจะไปถึงดาวอังคารตามแผนที่วางไว้ถ้าเขายังคงลงทุนในจรวจขับเคลื่อนด้วยพลังนิวเคลียร์ต่อไป
ที่มา API/Reuters