Yahoo ถอนตัวออกจากตลาดจีน เพราะธุรกิจไปต่อไม่ไหวหรือเหตุผลอื่น

เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน นี้ หนังสือพิมพ์ Wall Street Journal ได้ลงข่าวว่า “Yahoo ถอนตัวออกจากจีน ยุติความสัมพันธ์สองทศวรรษที่วุ่นวาย” ในวันเดียวกัน Yahoo! USA ก็ได้ออกประกาศว่าจะถอนตัวจากตลาดจีนแผ่นดินใหญ่และหยุดให้บริการทั้งหมดอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายนเป็นต้นไป

สื่ออเมริกันบางส่วนมีความเห็นว่า ความเคลื่อนไหวครั้งนี้ของ Yahoo เป็นการกระทำเชิง”สัญลักษณ์”เท่านั้น เพราะกิจการของ Yahoo ในจีนแผ่นดินใหญ่อยู่ในขาลงมานานแล้ว นักข่าวสายเศรษฐกิจของญี่ปุ่น Sanae Uragami ให้ความเห็นว่า “Yahoo แทบจะไม่มีบทบาทอะไรในจีนแผ่นดินใหญ่มานานแล้ว”

Yahoo เคยเป็นพอร์ทัลไซต์อันดับหนึ่งของโลกและเป็นผู้บุกเบิกอินเทอร์เน็ตพอร์ทัล มีการดำเนินงานใน 24 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลกและมีผู้ใช้มากกว่า 500 ล้านคน อย่างไรก็ตาม สื่อสหรัฐฯกลับไม่รู้สึกแปลกใจกับข่าวที่อดีตยักษ์ใหญ่อินเทอร์เน็ตรายนี้จู่ๆก็ถอนตัวออกจากจีนแผ่นดินใหญ่เมื่อวันที่ 2 ที่ผ่านมา

Yahoo เคยเป็นหนึ่งในบริษัทเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในโลก แต่อิทธิพลของมันลดลงอย่างรวดเร็วในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา แม้ว่าซีอีโอหลายคนพยายามที่จะฟื้นฟูบริษัทก็ตาม แต่ท้ายที่สุดแล้ว พวกเขาล้มเหลวและเสียส่วนแบ่งตลาดให้กับคู่แข่งอย่างต่อเนื่อง

สื่อสหรัฐฯระบุว่า ก่อนที่ Yahoo จะถอนตัวออกจากจีนนั้น การให้บริการในจีนก็ค่อนข้างจำกัดอยู่แล้ว Yahoo เข้าสู่จีนแผ่นดินใหญ่ในปี 1998 และบรรลุข้อตกลงความร่วมมือกับอาลีบาบากรุ๊ปในอีกไม่กี่ปีต่อมา ในระหว่างนั้น หลายแพลตฟอร์มของ Yahoo ได้ยุติกิจกรรมลง Yahoo ได้ปิดบริการข่าว อีเมล เพลงจีน และบริการชุมชนในจีนแผ่นดินใหญ่ในปี 2013 และปิดศูนย์ R&D ในกรุงปักกิ่งในอีก 2 ปีต่อมา ทำให้มีการเลิกจ้างพนักงานมากกว่า 200 คน Reuters ตั้งข้อสังเกตว่าก่อนที่จะหยุดให้บริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 1 Yahoo China ยังคงให้บริการพยากรณ์อากาศและบทความภาษาต่างประเทศบางส่วนอยู่

แม้ข้อเท็จจริงจะเป็นเช่นนั้นก็ตาม แต่ WSJ และสื่อสหรัฐฯบางส่วนกลับพยายามตีข่าวการถอนตัวออกจากจีนแผ่นดินใหญ่ของ Yahoo เช่นเดียวกับ Google โดยพยายามใช้โอกาสนี้เพื่อแสดงความรู้สึกเชิงลบของนักธุรกิจต่างชาติต่อสภาพแวดล้อมทางธุรกิจในประเทศจีน

WSJ อ้างว่า “การถอนตัวของ Yahoo เตือนผู้คนว่าบริษัทต่างชาติที่ดำเนินธุรกิจจีนยิ่งนับยิ่งเผชิญกับความท้าทายมากขึ้น Associated Press ระบุว่าการถอนตัวของ Yahoo ออกจากตลาดจีนแผ่นดินใหญ่นั้นเป็นผลพวงของสงครามทางการค้าและเทคโนโลยีระหว่างจีนกับสหรัฐฯ โดยจีนได้เติมเต็มช่องว่างนี้ด้วยยักษ์ใหญ่ด้านดิจิทัลของตนเอง เช่น Baidu เข้ามาแทนที่ Yahoo และ Google ในจีน ในขณะที่ WeChat และ Weibo เป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียชั้นนำของจีน

สื่อของสหรัฐฯ ชี้ว่าสาเหตุมาจาก “กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของสาธารณรัฐประชาชนจีน” ซึ่งมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 พฤศจิกายน โดยกล่าวว่ากฎหมายฉบับนี้ทำให้บริษัทตะวันตกบางแห่งตกอยู่ภายใต้แรงกดดันจากการเซ็นเซอร์ข้อมูลของรัฐบาลจีน ทำให้บริษัทต่างชาติดำเนินธุรกิจในจีนได้ยาก

แต่การอ้าง”กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของสาธารณรัฐประชาชนจีน”ของสื่อสหรัฐฯนี้ก็ถูกข้อเท็จจริงหักล้างทันที โดยเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน Joerg Wuttke ประธานหอการค้าสหภาพยุโรปในจีนกล่าวว่าแม้จะมีความท้าทายที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่จีนก็สามารถฟื้นตัวทางเศรษฐกิจได้อย่างรวดเร็ว ผลประกอบการของบริษัทอียูในจีนทำให้สำนักงานใหญ่เกิดความมั่นใจ และสามารถชดเชยกับความเสียหายในตลาดอื่น ๆ ได้ บริษัทอียูยินดีที่จะมีส่วนร่วมในการพัฒนาเพื่อยกระดับเศรษฐกิจของจีนมากยิ่งขึ้น