ลับลวงพราง – กรณี HongMeng OS

ทันทีที่รัฐบาลอเมริกันประกาศขึ้นบัญชีดำหัวเหว่ย โดยสั่งห้ามซัพพลายเออร์อเมริกาป้อนวัตถุดิบให้กับหัวเหว่ย Google เจ้าพ่อ Android ก็ออกมาประกาศเลิกสนับสนุนโทรศัพท์หัวเหว่ยทันที ขณะเดียวกัน หัวเหว่ยก็สวนกลับมาทันทีว่า “ฉันไม่แคร์ ฉันมีแผนสำรองไว้แล้ว” นั่นคือ ประกาศว่าไม่ง้อ Android ก็ได้ เพราะข้ามี HongMeng OS (鸿蒙)ที่พัฒนาเตรียมไว้แล้วเมื่อหลายปีก่อน ทำให้เป็นที่รู้จักกันทั่วโลกในชั่วข้ามคืน

หลังจากนั้นก็มีข่าวออกมาเป็นระยะ ๆ ถึงประสิทธิภาพที่เหนือกว่าทั้ง Android และ iOS การประกาศทดสอบกับโทรศัพท์นับล้านเครื่อง และกำหนดเวลาที่จะเปิดตัว ซึ่งคาดกันว่าจะเริ่มต้นที่โทรศัพท์หัวเหว่ยรุ่น Mate 30 ที่กำหนดจะวางตลาดประมาณเดือนกันยายน ศกนี้ ทำให้เดือดร้อนถึง Google ที่เริ่มมองเห็นลางร้าย โดยออกมากล่าวเชิงนักบุญว่า “รัฐบาลอเมริกาควรจะยกเลิกคำสั่งห้ามหัวเหว่ย เพราะการที่หัวเหว่ยหันไปพัฒนาระบบปฏิบัติการของตัวเอง อาจทำให้ผู้ใช้ไม่ปลอดภัยเนื่องจากอาจมี bug ที่กลายเป็นรูโหว่ให้ผู้ไม่หวังดีล้วงข้อมูลผู้ใช้ได้” พูดยังกับว่า Android ทางการที่ตัวเองพัฒนานั้นจะไม่มีรูโหว่ แท้จริงคือ ห่วงว่าจะสูญเสียตลาดขนาดใหญ่ที่กลุ่มผู้ใช้หัวเหว่ยซึ่งปัจจุบันครองตลาดเป็นลองแชมป์อยู่

เหลียงหัว (梁华)กรรมการผู้จัดการหัวเหว่ย
เหลียงหัว (梁华)กรรมการผู้จัดการหัวเหว่ย

แต่แล้ว อยู่ ๆ ก็ทำให้วงการงงเป็นไก่ตาแตก เมื่อผู้บริหารของหัวเหว่ยต่างออกมาแถลงกับสื่อว่า HongMeng OS ไม่ได้เกิดมาเพื่อโทรศัพท์มือถือ หากแต่พัฒนาเพื่อใช้กับอินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (Internet of Things – IoT) เช่น รถยนต์ไร้คนขับ โทรทัศน์ เครื่องมืออุตสาหกรรมต่าง ๆ และจุดเด่นของมันคือ มีความหน่วงต่ำเป็นพิเศษ (Ultra low latency) และมีความปลอดภัยสูงเป็นพิเศษ การออกมาแถลงเรื่องนี้ต่อสื่อครั้งแรกในงาน MWC 2019 ที่เซี่ยงไฮ้ โดยหูโฮ่วคุน (胡厚崑) รองกรรมการผู้จัดการ หลังจากนั้นข้ามเดือนมา เหลียงหัว (梁华)กรรมการผู้จัดการก็ออกมาแถลงเรื่องเดียวกันย้ำอีก และล่าสุด เหรินเจิ้งเฟย (任正非) เจ้าของผู้ก่อตั้งได้ให้สัมภาษณ์สื่อตะวันตกทั้ง Financial Times ของอังกฤษ และ Le Point ของฝรั่งเศสก็ออกมาตอกย้ำเรื่องเดียวกันเป็นครั้งที่สาม ทำให้สื่อต่าง ๆ ต่างออกมาแหนบแนมเชิงเย้ยหยันว่า “มีแต่ราคาคุย พอเอาจริงเข้าทำไม่ได้” “แล้วทำไมไม่คุยกันให้รู้เรื่องก่อนค่อยออกมาแถลง” เป็นต้น

ถ้ามองเหตุการณ์ครั้งนี้แบบชั้นเดียวเชิงเดียวก็จะเป็นไปอย่างที่สื่อต่าง ๆ ออกมากล่าวกัน คือ หัวเหว่ยไม่เหลือความน่าเชื่อถือเลยที่พูดอะไรกลับไปกลับมา แต่แน่ใจหรือว่าสิ่งที่ได้ยินได้เห็นคือสิ่งที่ใช่ ถ้ามันง่าย ๆ เช่นนั้น หัวเหว่ยคงไม่มีวันนี้แน่ ที่สร้างตัวจากบริษัทเล็ก ๆ เพียง 6-7 คนจนปัจจุบันกลายเป็นผู้นำระบบเทคโนโลยี 5G และเป็นเบอร์สองในโทรศัพท์มือถือหรอก มันต้องมีอะไรมากกว่านั้น และปรากฎการณ์ที่ออกสู่หน้าสื่อนับตั้งแต่ Google ประกาศเลิกให้กับสนับสนุนจนถึงวันนี้ จะเห็นว่ามันมีจังหวะจะโคน มีย่างก้าวที่ชัดเจนเหมือนมีการวางแผนไว้ก่อนแล้ว

ดังนั้น เหตุการณ์แต่ละช่วงแต่ละฉากที่ออกสู่สาธารณะจะต้องมีทั้งเรื่องจริง เรื่องลวง และเรื่องพรางอย่างแน่นอน ลูกหลานแผ่นดินสามก๊กย่อมเชี่ยวชาญในกลศึก ประวัติศาสตร์จีนกว่า 5 พันปี แผ่นดินที่จากก๊กเล็กก๊กน้อยจนรวมเป็นประเทศใหญ่ และใหญ่แล้วแตก แตกแล้วรวมอีกจนปัจจุบันเป็นแผ่นดินใหญ่ที่เข้มแข็ง ย่อมไม่คิดอะไรแบบชั้นเดียวเชิงเดียวง่ายๆแน่นอน

ทีนี้เรามาดูว่า หัวเหว่ยเขาทำกลศึกจนข้าศึกต้องไขว้เขวอย่างไร

  • ประกาศ HongMeng OS ทันทีที่กูเกิลประกาศเลิกให้การสนับสนุน โดยประกาศว่า ระบบปฏิบัติการตัวใหม่นี้ทางหัวเหว่ยได้พัฒนามาหลายปีแล้วโดยจะนำมาใช้กับโทรศัพท์ แท็บเล็ต PC ทีวีและอุตสาหกรรม และก็พร้อมจะเปิดนี้ภายในปี 2019 การประกาศครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าหัวเหว่ยมีความพร้อมเสมอ และระบบปฏิบัติการที่ว่านี้ยังใช้ได้หลากหลายมากกว่าระบบปฏิบัติการอื่น ๆ ที่มีอยู่ด้วยซ้ำ
  • จดเครื่องหมายการค้าภายใต้ชื่ออื่นๆ เช่น ARK OS  ล่าสุดประกาศจดเครื่องหมายการค้า Harmony OS อีก หรืออีกทีว่าจะนำเอาระบบปฏิบัติการ Sailfish OS ของรัสเซียมาปรับใช้ จนทำให้คนในวงการงงว่า ตกลงเอ็งจะเอายังไงกันแน่ แต่สำหรับหัวเหว่ยเขาไม่งงแน่ มันคือกลศึกตามแบบฉบับสามก๊กที่แยกทัพออกไปหลายเส้นทาง เส้นทางที่ประกาศโครมครามอาจเป็นแค่เป้าล่อ ส่วนทัพที่อยู่นอกสายตาอาจเป็นทัพหลักก็ได้ ทำให้ศัตรูสับสนตั้งรับลำบาก อย่างน้อยก็ทำให้ Google ต้องผ่อนโปรนให้การสนับสนุนต่อไปจนกว่าจะมีคำสั่งเพิ่มเติมจากทางรัฐบาล
  • ออกมาแถลงข่าวว่า HongMeng OS ไม่ได้พัฒนาเพื่อโทรศัพท์มือถือ ก่อนอื่นลองวิเคราะห์ความเป็นไปได้ว่า HongMeng OS ใช้กับมือถือได้หรือไม่ แม้ว่าจะมีเป้าหมายเบื้องต้นพัฒนามาเพื่อ IoT และถ้าพัฒนาเพื่อใช้กับมือถือได้หรือไม่ หากเราเป็นโปรแกรมเมอร์ย่อมเข้าใจดีว่า มันเป็นเรื่องที่เป็นไปได้ไม่ยาก ยิ่งถ้ามันสามารถใช้กับอุปกรณ์เล็ก ๆ ได้ มีความหน่วงต่ำและความปลอดภัยสูงแล้ว ยิ่งเหมาะสมที่จะใช้กับมือถือได้ และถ้าหากใช้กับโทรศัพท์ไม่ได้จริง ๆ ทำไมผู้บริหารถึงต้องทยอยดาหน้าออกมาแถลงข่าวด้วย สู้ปล่อยให้เรื่องเงียบไปเองไม่ดีกว่า หรือไม่ก็ให้รองกรรมการผู้จัดการออกมาแถลงครั้งเดียวก็น่าจะเพียงพอแล้ว แต่นี่ทยอยดาหน้าออกมาจากระดับรองจนถึงระดับสูงสุด เพื่อให้ผู้รับสารเข้าใจว่า “สิ่งที่ทำไม่ได้ใช้กับมือถือนะ (ดังนั้น Don’t worry)”  
เหรินเจิ้งเฟย (任正非)
เหรินเจิ้งเฟยให้สัมภาษณ์กับสื่อฝรั่งเศส Le Point

หากเราติดตามข่าวการให้สัมภาษณ์ของผู้บริหารหัวเหว่ยแต่ละคน แต่ละช่วงเวลาแล้วนำจิ๊กซอว์แต่ละตัวมาประติดประต่อก็จะเห็นภาพรวมที่ชัดเจนยิ่งขึ้น การที่หัวเหว่ยออกมาประกาศเช่นนี้ ประการหนึ่งเพราะ Google ยังคงให้การสนับสนุนต่อไป ประการที่สองคือ หากจับประเด็นจากการให้สัมภาษณ์ของผู้บริหารหัวเหว่ยจะมีประเด็นหนึ่งที่ว่า การสร้าง ecosystem ที่สมบูรณ์นั้น จะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2-3 ปี” แปลความได้ว่า ตัวพื้นฐานของ OS อาจมีความพร้อม แต่ ecosystem ยังคงต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่ง เมื่อ Google ผ่อนโปรนแล้ว จึงถือเป็นจังหวะที่ดีที่จะได้ใช้เวลานี้พัฒนาให้สมบูรณ์ก่อนนำมาใช้งานจริง ซึ่งไม่ต่างจากการที่ขงเบ้งอยู่ ๆ ถอนทัพกลับซีชวนด้วยการประกาศว่า เนื่องเพราะกองทัพขาดเสบียง จึงไม่อาจทำศึกต่อไปได้ ทำให้กองทัพของโจโฉถึงกับหลงกลตามไล่ล่าจนถูกกองทัพของเล่าปี่ซุ่มโจมตีแตกพ่ายไป

  • ไม่ยืนยันหรือปฏิเสธข่าว ปล่อยให้คู่แข่งงงจับทิศทางไม่ถูก ทันทีที่ประกาศ HongMeng OS ก็ตามด้วยข่าวอีกข่าวว่า จากการทดสอบประสิทธิภาพของ OS ตัวนี้ เหนือกว่าทั้ง Android และ iOS แต่ไม่มีใครหรือสื่อไหนเคยเห็นหรือได้สัมผัสตัวจริงเลย และที่ประกาศว่าได้ทำการทดสอบจริงกับโทรศัพท์มือถือนับล้านเครื่องแล้ว ก็เป็นแค่ข่าวภายในที่ไม่มีสื่อภายนอกไหนเคยได้ทดสอบ เมื่อครั้งที่ เหรินเจิ้งเฟย ให้สัมภาษณ์ Le Point ของฝรั่งเศสนั้น ผู้สัมภาษณ์ก็พยายามถามถึงเรื่องนี้ว่า HongMeng OS เร็วกว่าระบบปฏิบัติการอื่นนั้นจริงหรือไม่ แต่เหรินเจิ้งเฟยตอบแบบจอมยุทธเหยียบหิมะไร้ร่องรอยว่า “อาจจะจริง แต่ไม่ได้เปรียบเทียบ” และก็เลี่ยงตอบไปเรื่องอื่นว่า “ถ้าเทียบกับ iOS กับ Android แล้ว HongMeng OS มีข้อด้อยกว่าตรงที่ระบบ ecosystem ของเรายังเทียบกับเขาไม่ได้”

ฟังแล้วเหมือนไม่ได้ตอบ แต่ก็เหมือนมีคำตอบ ช่างเหมือนกับกลศึกในสามก๊ก สิ่งที่เห็นอยู่เบื้องหน้ามีแต่ทหารแก่ ทหารบาดเจ็บ แต่ที่ซุ่มอยู่จริงๆคือทหารชั้นแนวหน้าที่พร้อมจะสู้รบ หรือบางทีเห็นสงบนิ่ง นั่งดีดพิณพร้อมเปิดประตูเมืองรอ เหมือนมีความพร้อมเต็มที แต่ข้างในกลวง แม้แต่สุมาอี้ที่ชำนาญศึกไม่แพ้ขงเบ้งยังหลงกล

อาจารย์ เฉินไห่ปอ (陈海波)
อจ.เฉินไห่ปอ (ซ้ายคนที่1) – ภาพจาก Microsoft Research Asia

เชื่อแน่ว่า HongMeng OS จะต้องเป็นหมุดหมายของหัวเหว่ยอย่างแน่นอน (ถึงเวลาจริงๆจะเรียก OS อะไรก็ตาม) และยังไงก็ไม่มีทางทิ้งแน่ เพียงแต่ถ้าเจอสถานการณ์ที่ Google ตัดสัมพันธ์เร็ว ก็จะเข็นออกมาใช้งานเร็ว แน่นอนว่าเริ่มจากผู้ใช้ในประเทศก่อน ส่วนนอกประเทศจีนจะเป็น Sailfish OS หรือ Android ในแพลตฟอร์มที่เป็น open source ก็แล้วแต่ แต่เชื่อมั่นได้ว่ายังคงรองรับ application ของ Android ได้อย่างสมบูรณ์ แค่ไม่ได้ติดตั้งแอพประเภทอย่าง Google map, Google Drive, Gmail, Facebook เป็นต้น ซึ่งก็ไม่น่าจะเดือดร้อน ใครอยากใช้ก็ติดตั้งเองได้

*ภาพจากอินเทอร์เน็ต ลิขสิทธิ์เป็นของเจ้าของภาพนั้นๆ