งานมหกรรมเครื่องเสียงท่ามกลางจราจล

ทุกวันศุกร์ที่สองเดือนสิงหาคมของปี จะเป็นงานมหกรรมเครื่องเสียงที่ใหญ่ที่สุดของฮ่องกงหรืออาจจะในภูมิภาคนี้ นั่นคืองาน “Hong Kong High-end AV Show” ซึ่งจะจัดในวันศุกร์ถึงอาทิตย์รวม 3 วัน ที่นี่จะเป็นแหล่งรวมของเครื่องเสียงแบรนด์ดังจากทั่วโลก รวมทั้งจะเป็นที่ชุมนุมของคนรักเครื่องเสียงทั้งจากฮ่องกง มาเก๊า จีนแผ่นดินใหญ่ ตลอดจนประเทศในกลุ่มอาเซียน โดยเฉพาะนักเล่นเครื่องเสียงคนไทยที่เดินไปห้องไหนก็แทบจะเดินชนกันตลอด

สำหรับปีนี้ ก็อย่างที่เราทราบกันอยู่ ฮ่องกงเกิดเหตุการณ์ไม่สงบเนื่องด้วยกลุ่มประท้วงออกมาก่อการจราจล ทั้งทำลายสถานที่ราชการ ขัดขวางการขนส่งคมนาคม โดยเริ่มจากเหตุไม่พอใจที่รัฐบาลจะออกกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนไปจีน เหตุการณ์เริ่มบานปลายเมื่อคืนวันที่ 30 มิถุนายน ต่อเนื่องถึงรุ่งเช้าวันที่ 1 กรกฎาคม ซึ่งเป็นวันที่ครบรอบ 22 ปีการที่ฮ่องกงกลับคืนสู่อ้อมอกมาตุภูมิ

เหตุการณ์ความวุ่นวายดำเนินต่อเนื่องมาจนข้ามมาถึงเดือนสิงหาคม ไม่มีทีท่าว่าจะเบาบางลง มีแต่จะยกระดับความรุนแรงมากขึ้น ทำให้ผู้คิดจะร่วมงานทั้งในฐานะผู้ค้าและผู้ชมผู้บริโภคต่างเริ่มไม่มั่นใจว่างาน AV Show 2019 นี้จะยังคงจัดอีกหรือไม่ ทำให้มีจำนวนไม่น้อยตัดสินค้ายกเลิกการเดินทางครั้งนี้

เช้าวันที่ 9 ซึ่งเป็นงานวันแรกของงาน ทุกอย่างดำเนินตามปกติ งานต่าง ๆ ในศูนย์การประชุมและแสดงสินค้ายังคงจัดตามปกติ นอกจากเครื่องเสียงแล้ว ยังมีงานผลไม้ที่ทางมาเลเซียนำเอาทุเรียนพันธุ์เก่งทั้ง “มูซันคิง” ซี่งปกติขายกิโลกรัมละ 800 และ “โอวฉี” หรือหนามดำที่ขายสูงถึงกิโลกรัมละ 10,000 กว่าบาท (แม้แต่ซื้อจากสวนที่ภาคใต้ของไทยยังตกกก.ละ 400-600 บาท) จึงเป็นการเพิ่มสีสันให้กับคนมาชมงานไม่น้อย เพราะได้สัมผัสทั้งรูป-รส-กลิ่น-เสียง ครบสูตร 555

ประเด็นร้อนในงานที่แทบทุกคนเจอหน้ากันต้องพูดคุยกัน โดยเฉพาะชาวฮ่องกงก็คือ สถานการณ์ร้อนที่กำลังเกิดขึ้น หน้าบูทขายบัตรเข้าชมที่ปีก่อน ๆ จะมีแฟน ๆ มาเข้าแถวยาวแต่เช้าเพื่อรอซื้อบัตรเข้าชมงาน มาปีนี้ค่อนข้างบางตา  นอกจากคนฮ่องกงเองที่ลดลงแล้ว ที่ถือว่าหายหน้าหายตาไปอย่างชัดเจนก็จะเป็นแฟนเครื่องเสียงจากจีนแผ่นดินใหญ่และจากอาเซี่ยน ศิลปินที่เดิมกำหนดว่าจะมาโชว์ในงานก็ยกเลิกไปไม่น้อย เพราะต่างก็ไม่มั่นใจว่าออกจากงานแล้ว จะนั่นรถไฟฟ้าได้หรือไม่ มีเรือข้ามฟากให้โดยสารหรือไม่ หรือว่าข้ามฟากไปถึงจิมซาจุ่ยแล้วจะเจอกลุ่มเสื้อดำหรือไม่ หรือถ้านั่งรถก็ไม่รู้ว่าอุโมงค์ข้ามเกาะจะถูกปิดหรือไม่ ทุกอย่างเป็นที่น่ากังวลไปหมด

ส่วนในงานเครื่องเสียงก็ยังคงดำเนินไปตามปกติ วิทยากรหรือแขกต่างประเทศที่มาก็ยังคงพูดคุยตามปรกติ เพียงแต่จำนวนคนไม่ได้เบียดเสียดจนล้นห้องเหมือนปีก่อนๆ ถือว่าเป็น”โอกาสท่ามกลางวิกฤติ”ก็คงไม่ผิด ประเด็นที่น่าสนใจของงานในปีนี้คือ ไฟล์ MQA (Master Quality Authenticated) ซึ่งว่าไปแล้วพวกเราที่เล่นไฟล์ดิจิตอลก็รู้จักกันมานานพอควรแล้ว เป็นเทคโนโลยีที่นำมาใช้กับไฟล์ที่ผ่านการบีบอัดเพื่อสะดวกในการดาวน์โหลดให้คงได้คุณภาพเสียงตามที่สตูดิโอบันทึกมา คือเมื่อเล่นไฟล์เพลงผ่านอุปกรณ์ที่รองรับการถอดรหัส MQA ข้อมูลที่ขาดหายไปจากการบีบอัดก็จะถูกดึงมาชดเชยตามที่บันทึกไว้ในมาสเตอร์ เนื่องจากแพลตฟอร์มบริการสตรีมเพลงออนไลน์อย่าง Tidal เปิดให้บริการแล้ว หรือแม้แต่ Xiami ของจีนที่เคยแนะนำ ก็เปิดให้บริการแล้วเช่นกัน จึงไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ที่นำมากล่าวในนี้และถือเป็นหนึ่งในไฮไลท์ของงาน ซึ่งไม่ใช่ DAC หรือ Streamer ที่รองรับ MQA หากแต่เป็น MQA-CD นั่นคือ แผ่น CD ก็สามารถรองรับ MQA กันแล้ว ซึ่งในงานมีผู้ผลิตแผ่นหลายรายด้วยกันที่นำ MQA-CD มาจำหน่ายกันแล้ว ต่อไปนี้แฟนออดิโอไฟล์ก็จะได้ฟังเพลงในคุณภาพระดับห้องอัดกันแล้ว

อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ แผ่นไวนิลจีนแผ่นดินใหญ่ ในปีที่ผ่าน ๆ มา ผู้ผลิตแผ่นจากจีนแผ่นดินใหญ่มาออกงานกันจำนวนไม่น้อย แต่จำนวนคนที่เข้าไปอุดหนุนนั้นน้อยซะจนน่าสงสาร แต่มาปีนี้กลับตรงกันข้าม หลายเจ้าขายหมดตั้งแต่วันแรก สาเหตุเป็นเพราะว่าผู้ผลิตมีการพัฒนาคุณภาพจนเป็นที่ยอมรับของนักเล่นเครื่องเสียง เพราะพวกเขาเวลาซื้อแผ่นไม่ได้ซื้อด้วยสายตา หากแต่ซื้อด้วยหู

นอกจากตัวซอฟต์แวร์จากจีนแผ่นดินใหญ่ที่มาแรงอย่างผิดหูผิดตาในงานนี้แล้ว ด้านฮาร์ดแวร์เองก็ไม่น้อยหน้าเช่นกัน โดยปรกติเครื่องเสียงจีนจะเป็นอะไรที่อยู่นอกสายตา แต่งานในปีนี้ได้รับความสนใจอย่างอุ่นหนาฝาคลั่งทั้งแบรนด์ใหม่และแบรนด์เก่าที่มีแฟนขาประจำอยู่แล้วอย่างเช่น Shanling, SPARK, Vibrato หรือ Original เป็นต้น

สำหรับขาใหญ่ที่ถือแบรนด์เครื่องเสียงอยู่ในมือคนละ 10 กว่าแบรนด์นั้น ปีนี้ยังคงเข้ามายึดสมรภูมิเช่นเดิม พวกนี้คือตัวแม่เหล็กสำคัญ ต่างคนก็แสดงอยู่ในห้องขนาดใหญ่สลับกันแสดงเครื่องเสียงแต่ละยี่ห้อ ถ้าขาดกลุ่มนี้ไปสงสัยงานนี้คงต้องพับแน่นอน

ส่วนโฮมเธียเตอร์นั้น ปกติจะมีขาใหญ่ที่สร้างห้องโชว์เหมือนกับโรงภาพยนตร์สมบูรณ์แบบ แต่ปีนี้ขาใหญ่ทั้งสองรายเหมือนจะนัดกันไม่มีใครสร้าง”โรงภาพยนตร์”กันเลย คงพอจะเดาหรือมองเห็นภาพลาง ๆ เกี่ยวกับอนาคตของวงการนี้ว่าจะไปทิศทางไหน หรือชะตาจะเป็นอย่างไร

 แม้ว่างานจะกร่อยไปบ้าง แต่ถือว่าเป็นโอกาสที่ได้มีเวลานั่งฟังกันได้อย่างสบาย ๆ ทุกอย่างผ่านไปด้วยดี แต่กรรมของคนที่จะเดินทางกลับในวันที่ 12 สิ สนามบินถูกกลุ่มเสื้อดำผู้ประท้วงเข้าไปยึดสนามบินจนมืดฟ้ามัวดินไปหมด ผู้โดยสารที่จะเดินทางเข้าออกถูกขัดขวางหมด ในที่สุดทางการก็ต้องประกาศสั่งปิดสนามบินและยกเลิกเที่ยวบินที่จะเข้าออกหลังสี่โมงเย็นกว่าๆเกือบ 200 เที่ยว ผู้ที่จะเดินทางออกจากฮ่องกงเลยได้พัก”โรงแรม”ฟรีที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโลก คือ สนามบินเช็กล้าบก็อก

 ภาพจากอินเทอร์เน็ต ลิขสิทธิ์เป็นของเจ้าของภาพนั้นๆ